คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น |
|
|
|
 |
พิษณุโลก -
จับได้แล้วโจรจี้ชิงเงินแบงก์กสิกรไทย สาขา
มน.ที่แท้เป็นนักศึกษาวิศวะฯปีสุดท้าย คิดสั้น เหตุไปลงทุนค้าขายแต่เจ๊ง
ตัดสินใจซื้อปืนปลอมจี้แบงก์ ก่อนหนีกบดาน ตำรวจสืบจากรถ
จยย.ที่ใช้ไม่เหมือนใคร จนตามรวบจนได้
วันนี้ (30 ส.ค.55) พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ รอง ผบช.ภ.6
พ.ต.อ.เดชชาติ วัฒนพนม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก
พร้อมตำรวจชุดจับกุมนำตัวผู้ต้องหาคือนายณัฐพล โพธิ์แสง อายุ 23 ปี
นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา ปี 5 มหาวิทยาลัยนเรศวร
บ้านเดิมอยู่เลขที่ 32 ม.14 ต.โกสัมพี อ.โกสัมพีนคร จ.กำแพงเพชร
ที่ก่อเหตุชิงเงินธนาคารกสิกรไทย สาขามหาวิทยาลัยนเรศวร
เดินทางไปทำแผนประการรับสารภาพบริเวณจุดที่เกิดเหตุก่อนชิงบุกจี้ชิงเงิน
ที่ลานจอดรถจักรยานยนต์ ทิศตะวันตก ห่างจากธนาคารประมาณ 50 เมตร
โดยนายณัฐพล ได้นำรถจักรยานยนต์ฮอนด้า 125R สีแดง-ดำ ทะเบียน กวท-
920 กำแพงเพชร ที่ใช้ก่อเหตุไปจอด หันหน้ารถออกเตรียมพร้อมที่จะขับหลบหนี
หลังจากนั้นได้เดินมาทางด้านหลังธนาคาร ก่อนจะอ้อมไปทางประตูหน้าธนาคาร
เปิดประตูเดินตรงเข้าที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ผู้ต้องหาใช้ผ้าสีขาวคลุมศีรษะและนำหมวกกันน็อก
มาใส่ทับปิดบังใบหน้า เหมือนกับตอนที่ปล้นธนาคาร พร้อมกับสวมถุงมือสีเหลือง
จุดหลักของการทำแผนประกอบคำสารภาพครั้งนี้ คือ
ผู้ต้องหาเปิดประตูเดินตรงเข้าที่บริเวณหน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งมี น.ส.สรียา
ทองคำ อายุ 23 ปี พนักงานธนาคาร กำลังนั่งทำงานอยู่บริเวณนั้นพอดี
จากนั้นผู้ต้องหาได้หยิบเอาอาวุธปืนขึ้นมา
โดยหันปลายกระบอกอาวุธปืนใส่พนักงานแบงก์
พร้อมกับบอกให้หยิบเงินใส่ให้มากที่สุด ถ้าไม่ทำจะยิงให้ตาย
ทำให้พนักงานยอมหยิบเงินใส่ถุงพลาสติกสีเขียวให้ไปจำนวนหนึ่ง
(ตรวจสอบภายหลังเป็นเงินประมาณ 199,750 บาท) หลังได้เงินสดเรียบร้อย
ผู้ต้องหาได้รีบเดินออกจากธนาคารไปขี่รถจักรยานยนต์ที่จอดเอาไว้
ก่อนจะขับหลบหนีไปทันที
กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบสวนจากรถจักรยานยนต์ของคนร้าย
เนื่องจากรถรุ่นนี้มีอยู่ไม่กี่คัน หลังได้ข้อมูลออกติดตามตัวผู้ต้องสงสัย
จนทราบว่า ได้เดินทางไปกรุงเทพฯกับแฟนสาวเพื่อไปซื้อสินค้าเสื้อผ้ามาขาย
ส่วนรถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุจอดเอาไว้ที่หอพักดุษฎีเพรส
ซึ่งอยู่ในย่านมหาวิทยาลัยนเรศวร ม.8 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก โดยเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังเอาไว้ตลอด 24 ชั่วโมง กระทั่งนายณัฐพล เดินทางกลับมา จึงได้เข้าการจับกุม
นายณัฐพล สารภาพว่า เหตุที่จูงใจจี้ชิงเงินแบงก์ครั้งนี้
เพราะตนทำธุรกิจขายเสื้อผ้าทางอินเทอร์เน็ต
ได้โอนเงินที่แม่โอนมาให้เพื่อดาวน์รถยนต์ไปซื้อของจำนวน 80,000 บาท
แต่ถูกโกง ไม่ได้สินค้าตามที่สั่งซื้อ จึงได้ยืมเงินจากคนที่รู้จักสองคน
จากนั้นต้องหาเงินมาใช้หนี้ จึงติดต่อกู้เงินนอกระบบทางอินเทอร์เน็ต
แต่เครดิตไม่ผ่าน เพราะยังเป็นนักศึกษา
จำเป็นต้องหาเงินมาจำนวนหนึ่งมาทำเครดิตให้ดีก่อน
กระทั่งใกล้ครบกำหนดวันคืนและตนไม่อยากเสียคำพูด
จึงคิดหาวิธีในวินาทีสุดท้าย คือ วางแผนจะไปจี้เงินในธนาคารกสิกรไทย
สาขามหาวิทยาลัยนเรศวร โดยคิดอยู่ 4
วันก่อนตัดสินใจไปซื้อปืนปลอมพลาสติกมาใช้ก่อเหตุ
และหลังก่อเหตุได้นำปืนดังกล่าวไปทิ้งแล้ว
นายณัฐพล กล่าวหลังถูกจับว่า รู้สึกเสียใจมาก เป็นจุดต่ำสุดของชีวิตแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ รอง ผบช.ภ.6 กล่าวว่า
เหตุที่จับได้เร็วเพราะได้ข้อมูลจากประชาชน นักศึกษา และอาสาตำรวจ
เป็นประโยชน์ในการติดตามจับกุม
โดยผู้ต้องหารายนี้กำลังใกล้จบวิศวะฯอยากได้รถใหม่
ทางครอบครัวพ่อแม่มีอาชีพเกษตรกรรมจะให้รถกระบะเก่ามาใช้
แต่ลูกชายต้องการเงินไปซื้อรถเก๋ง โตโยโต้วีออส
จึงได้ส่งเงินที่ปล้นไปกว่าแสนบาทให้กับพ่อแม่เก็บไว้
ส่วนที่เหลือได้นำไปซื้อสินค้าข้าวของเครื่องใช้ตนเอง
และจากการติดต่อทางพ่อแม่ผู้ต้องหา เกี่ยวกับเรื่องเงินที่ลูกชายโอนเข้าบัญชีธนาคาร ได้รับคำตอบว่า ยินดีจะคืนเงินให้ทั้งหมด
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น